“ตามองเห็นจุดดำ” เห็นเป็นหยากไย่ อันตรายมากแค่ไหน
นายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยมาพบจักษุแพทย์ด้วยโรควุ้นตาเสื่อมมากขึ้น อาการมองเห็นจุดดำลอยไปมา เหมือนหยากไย่ลอยไปมาเหมือนคราบที่ติดกระจก เห็นชัดเมื่อมองไปยังภาพที่มีสีสว่าง มองไปที่พื้นผิวเรียบ ฝาผนังสีพื้น หรือท้องฟ้า หากตรวจพบอาการแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น เช่น ประสาทตาฉีกขาด อาการคือจะมองเห็นแสงแฟลช ไฟแว๊บ ฟ้าแลบในที่มืด ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา ด้วยการดำเนินของโรควุ้นตาเสื่อมนี้จะดึงตัวและทำให้จอประสาทตาฉีกขาด อาจทำให้มีเลือดออกเป็นจุด มองเห็นเป็นจุดลอยบดบังสายตารอยขาดที่จอประสาทตานี้เป็นอันตรายและก่อให้เกิดจอประสาทตาลอกได้ในที่สุด โดย แพทย์หญิงอุมาภรณ์ จิตตวัฒนรัตน์ จักษุแพทย์ ศูนย์จอตาและวุ้นตา กล่าวเสริมว่า วุ้นตาเป็นสารใสคล้ายเจลบรรจุอยู่ภายใน ลูกตาส่วนหลัง ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้แสงผ่าน ให้สารอาหารแก่จอตาและผนังลูกตาชั้นในการมองเห็นจุดดำลอยไปมาหรือหยากไย่ลอยไปมา ซึ่งสาเหตุจากอายุที่มากขึ้นวุ้นตาเดิมที่มีลักษณะเป็นเจลลี่จะเปลี่ยนเป็นของเหลวมากขึ้น และนำมาซึ่งการลอกตัวหลุดจากชั้นจอตาด้านในเป็นเหตุให้เกิดอาการเห็นจุดดำลอย ภาวะอักเสบในวุ้นตาและจอตาด้านหลัง ซึ่งมีสาเหตุได้จาการติดเชื้อ ภาวะอักเสบอันเกิดจากภูมิคุ้มกันต่อตนเอง เลือดออกเข้าในวุ้นตา มีสาเหตุได้จากเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดดำอุดตันภายในตา จอตาฉีกขาด หรือจอตาลอก การผ่าตัดตาหรือการฉีดขาดเข้าวุ้นตาก็เป็นอีกสาเหตุ
ซึ่งการฉีดยาเข้าวุ้นตาอาจทำให้มีฟองอากาศซึ่งเป็นสาเหตุเห็นจุดดำลอยไปมา แต่จะหายไปได้เองหรือการผ่าตัดจอตาโดยใส่น้ำมันหรือก๊าซกดทับจอตาจะทำให้เป็นจุดดำลอยไปมาได้ หลายคนอาจสงสัยว่าเมื่อไหร่ควรรีบพบจักษุแพทย์ ซึ่งหากมีอาการเมื่อพบจุดดำลอยไปมาเพิ่มขึ้นทันทีทันใดมากกว่าในภาวะปกติ พบแสงแฟสชในตาข้างที่พบเห็นจุดดำลอยไปมา หรือเห็นม่านดำในส่วนใดส่วนหนึ่งของภาพการมองเห็น
30 กรกฎาคม 2566